top of page
Search

ผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อชั้นวางสินค้า What are the Impacts of Earthquakes on Pallet Racking System?

Updated: Apr 9



จากการที่คุณกำลังศึกษาผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อ Pallet Racking ผมจะแบ่งหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ Pallet Racking ออกเป็นประเด็นต่างๆ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการออกแบบ Pallet Racking ให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงยกตัวอย่างการใช้งานและกรณีศึกษาจากโลกจริง :

หัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อ Pallet Racking:

  1. กลไกความเสียหายจากแผ่นดินไหว (Seismic Failure Mechanisms):

    • การล้ม (Overturning/Collapse)

    • การโก่งเดาะ (Buckling) ของเสาและคาน

    • การหลุดของคาน (Beam Dislodgement)

    • ความเสียหายของจุดเชื่อมต่อ (Connection Failure)

    • ความเสียหายของฐานยึด (Anchorage Failure)

    • การกระแทกกันระหว่าง Rack (Rack-to-Rack Impact)

  2. ปัจจัยที่มีผลต่อความเสียหาย (Factors Influencing Seismic Damage):

    • ความรุนแรงและลักษณะของแผ่นดินไหว (Magnitude, Ground Acceleration, Frequency Content)

    • สภาพดินในพื้นที่ติดตั้ง (Soil Type, Site Class)

    • คุณสมบัติทางกายภาพของ Pallet Racking (ความสูง, รูปทรง, น้ำหนัก)

    • การบรรทุกน้ำหนักและลักษณะการจัดเก็บสินค้า (Load Weight, Load Distribution)

    • คุณภาพการออกแบบและการก่อสร้าง (Design Quality, Material Properties, Connection Details)

    • การบำรุงรักษา (Maintenance Condition)

  3. การวิเคราะห์แรงแผ่นดินไหว (Seismic Load Analysis):

    • การกำหนดค่าสัมประสิทธิ์การตอบสนองต่อแผ่นดินไหว (Seismic Response Coefficient)

    • การคำนวณแรงเฉือนที่ฐาน (Base Shear)

    • การกระจายแรงในแนวดิ่ง (Vertical Distribution of Seismic Forces)

    • การพิจารณาผลกระทบขององค์ประกอบที่ไม่ใช่โครงสร้าง (Non-structural Components)

  4. การออกแบบองค์ประกอบโครงสร้างเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว (Seismic Design of Structural Elements):

    • การออกแบบเสา (Upright Design)

    • การออกแบบคาน (Beam Design)

    • การออกแบบระบบค้ำยัน (Bracing Design)

    • การออกแบบจุดเชื่อมต่อ (Connection Design)

    • การออกแบบฐานยึด (Base Plate and Anchorage Design)

  5. การประเมินความเสี่ยงและการแก้ไข Pallet Racking ที่มีอยู่ (Seismic Risk Assessment and Retrofitting):

    • การตรวจสอบสภาพปัจจุบันของ Rack

    • การประเมินความสามารถในการรับแรงแผ่นดินไหว

    • วิธีการเสริมความแข็งแรง (Adding Bracing, Strengthening Connections, Improving Anchorage)

ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวล่าสุด ใน กทม.
ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวล่าสุด ใน กทม.

วิธีการออกแบบ Pallet Racking ให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว:

การออกแบบ Pallet Racking ให้สามารถต้านทานแรงแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการทางวิศวกรรมโครงสร้างและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีขั้นตอนและข้อควรพิจารณาหลักๆ ดังนี้:

  1. การกำหนดข้อกำหนดและเงื่อนไข (Defining Requirements and Conditions):

    • ระบุระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวในพื้นที่ติดตั้ง โดยอ้างอิงจากแผนที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวและกฎหมายท้องถิ่น

    • กำหนดประเภทของ Pallet Racking และลักษณะการใช้งาน

    • กำหนดน้ำหนักบรรทุกสูงสุดและลักษณะการจัดเก็บสินค้า

  2. การเลือกมาตรฐานการออกแบบ (Selecting Design Standards):

    • เลือกมาตรฐานสากลที่เหมาะสม เช่น ANSI MH16.1, EN 15512, AS 4084 หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับ

  3. การวิเคราะห์แรงแผ่นดินไหว (Seismic Load Analysis):

    • คำนวณแรงแผ่นดินไหวที่กระทำต่อโครงสร้างตามมาตรฐานที่เลือก โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าสัมประสิทธิ์การตอบสนองต่อแผ่นดินไหว, ความสำคัญของอาคาร, และสภาพดิน

  4. การออกแบบองค์ประกอบโครงสร้าง (Structural Element Design):

    • ออกแบบเสา, คาน, และระบบค้ำยันให้มีขนาดและคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการรับแรงแผ่นดินไหว รวมถึงแรงในสภาวะปกติ

    • ให้ความสำคัญกับการออกแบบจุดเชื่อมต่อต่างๆ ให้มีความแข็งแรงและสามารถถ่ายเทแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    • ออกแบบฐานยึดให้สามารถยึด Rack กับพื้นคอนกรีตได้อย่างมั่นคง โดยใช้ Anchor Bolt ที่มีขนาดและจำนวนเหมาะสม

  5. การพิจารณาการเสียรูป (Deformation Considerations):

    • ควบคุมการเสียรูปของโครงสร้างให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เพื่อป้องกันการชนกันระหว่าง Rack และความเสียหายต่อสินค้า

  6. การใช้ Finite Element Method (FEM) (ถ้าจำเป็น):

    • สำหรับโครงสร้างที่มีความซับซ้อน หรือต้องการวิเคราะห์พฤติกรรมอย่างละเอียด อาจใช้ FEM ในการจำลองและวิเคราะห์การตอบสนองของโครงสร้างต่อแรงแผ่นดินไหว

  7. การจัดทำแบบก่อสร้างและรายการคำนวณ (Preparing Construction Drawings and Calculation Reports):

    • จัดทำแบบก่อสร้างที่แสดงรายละเอียดทั้งหมดของ Pallet Racking รวมถึงการติดตั้งระบบค้ำยันและฐานยึด

    • จัดทำรายการคำนวณที่แสดงขั้นตอนการวิเคราะห์และออกแบบตามมาตรฐานที่เลือก

  8. การควบคุมการผลิตและการติดตั้ง (Manufacturing and Installation Control):

    • ควบคุมคุณภาพการผลิตให้เป็นไปตามแบบและมาตรฐาน

    • ควบคุมการติดตั้งให้ถูกต้องตามแบบ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบค้ำยันและฐานยึด

มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง (International Standards Involved):

  • ANSI MH16.1: Specification for the Design, Testing and Utilization of Industrial Steel Storage Racks (USA)

  • ANSI MH16.3: Specification for the Design, Testing and Utilization of Welded Wire Rack Shelving (USA)

  • International Building Code (IBC): (USA) ซึ่งอ้างอิงถึง ANSI MH16.1 และ ASCE 7

  • ASCE 7: Minimum Design Loads and Associated Criteria (USA)

  • EN 15512: Steel static storage systems - Adjustable pallet racking - Principles for structural design (Europe)

  • EN 16681: Steel static storage systems - Adjustable pallet racking - Tolerances, deformations and clearances (Europe)

  • Eurocode 3: Design of steel structures - Part 1-1: General rules and rules for buildings (Europe)

  • AS 4084: Steel storage racking (Australia)

  • NZS 4219: Seismic performance of engineering systems in buildings (New Zealand)

ตัวอย่างการใช้งาน (Use Cases):

  • คลังสินค้าในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวสูง: การออกแบบ Pallet Racking ให้ทนทานต่อแผ่นดินไหวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสินค้าและอันตรายต่อบุคลากร

  • ศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญ: หาก Pallet Racking ในศูนย์กระจายสินค้าเสียหายจากแผ่นดินไหว อาจส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในวงกว้าง การออกแบบให้ทนทานจึงช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว

  • ห้องเย็นและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ: ความเสียหายของ Pallet Racking ในห้องเย็นอาจทำให้สินค้าเสียหายและส่งผลเสียต่อธุรกิจอย่างมาก การออกแบบให้ทนทานต่อแผ่นดินไหวจึงมีความสำคัญ

  • อาคารที่มีความสำคัญต่อสาธารณะ: เช่น โรงพยาบาล หรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่มีการจัดเก็บสิ่งของจำเป็น การออกแบบ Pallet Racking ให้ทนทานต่อแผ่นดินไหวจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสิ่งของเหล่านั้นจะยังคงใช้งานได้หลังเกิดเหตุการณ์

กรณีศึกษาจากโลกจริง (Real-World Case Studies):

  • แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (เช่น แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น ปี 2011): เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อคลังสินค้าและระบบจัดเก็บสินค้าที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับแรงแผ่นดินไหวอย่างเพียงพอ Pallet Racking จำนวนมากได้ล้มลง ทำให้สินค้าเสียหายและเกิดความล่าช้าในการกู้ภัยและการฟื้นฟู

  • แผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์ (เช่น แผ่นดินไหว Christchurch ปี 2011): เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อ Pallet Racking ในหลายพื้นที่ มีรายงานการล้มของ Rack และการหลุดของสินค้า ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงมาตรฐานการออกแบบและการติดตั้ง Pallet Racking ในประเทศ

  • กรณีศึกษาอื่นๆ: มีรายงานความเสียหายของ Pallet Racking จากแผ่นดินไหวในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมักจะเกิดจากการออกแบบที่ไม่เพียงพอ การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือการบำรุงรักษาที่ไม่ดีพอ กรณีศึกษาเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกแบบ Pallet Racking ให้สามารถต้านทานแรงแผ่นดินไหวตามมาตรฐานสากล

จากกรณีศึกษาเหล่านี้ เราได้เรียนรู้ว่าการออกแบบ Pallet Racking ให้ทนทานต่อแผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของบุคลากรและการรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจด้วย การทำความเข้าใจมาตรฐานสากล การวิเคราะห์แรงแผ่นดินไหวอย่างถูกต้อง และการออกแบบองค์ประกอบโครงสร้างอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดผลกระทบจากแผ่นดินไหวต่อ Pallet Racking ครับ



 
 
 

Commentaires


bottom of page